ไวรัสตับอักเสบ ภาวะร้ายแรงชนิดหนึ่งที่คนมักมองข้าม เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าตัวเองเป็น เพราะไวรัสตับอักเสบไม่แสดงภาวะชัดเจนนัก เมื่อเป็นแล้วไม่ได้รับการรักษาจะก่อให้เกิดเป็น ภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมะเร็งตับ และเสี่ยงเสียชีวิตได้
.
ไวรัสตับอักเสบ มี 5 ชนิด คือ
1. ไวรัสตับอักเสบ เอ
2. ไวรัสตับอักเสบ บี
3. ไวรัสตับอักเสบ ซี
4. ไวรัสตับอักเสบ ดี
5. ไวรัสตับอักเสบ อี
ซึ่งไวรัสที่ร้ายแรง และส่งผลก่อให้เกิด “มะเร็งตับ” มีอยู่ 2 ชนิด คือ “ไวรัสตับอักเสบบี” และ “ไวรัสตับอักเสบซี”
.
ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี เสี่ยงเป็นมะเร็งได้อย่างไร?
.
ไวรัสตับอักเสบบี
มักเป็นไวรัสที่พบการติดเชื้อบ่อยที่สุด เนื่องจากเกิดได้จากสิ่งใกล้ตัว
1. ติดเชื้อจากพันธุกรรม การถ่ายทอดจากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารก แต่ในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนให้ทารกที่คลอดแล้ว ช่วยป้องกันได้เกือบร้อยละ 100
2. ติดทางเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
3. ติดจากการสัก เจาะหู ฝังเข็ม โดยอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ หรือฆ่าเชื้อไม่ถูกวิธี
4. ติดจากการได้รับเลือดที่มีเชื้อ แต่ปัจจุบันพบน้อยแล้ว เนื่องจากปัจจุบันธนาคารเลือดได้มีระบบตรวจคัดกรองเป็นอย่างดี
.
โดย “ไวรัสตับอักเสบบี” แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
1. ระยะเฉียบพลัน หลังจากติดเชื้อเซลล์ตับจะถูกทำลายเป็นจำนวนมากและมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งในกรณีนี้อาจทำให้เกิดภาวะตับวายได้
2. ระยะเรื้อรัง คือผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังมานาน ซึ่งถ้าหากละเลยในบางรายอาจกลายเป็นมะเร็งตับได้ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
2.1 พาหะ คือ ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย จะไม่มีภาวะแต่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ผลการตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับอยู่ในเกณฑ์ปกติ
2.2 ตับอักเสบเรื้อรัง คือ ผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย และตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับผิดปกติ ซึ่งการติดเชื้อแบบเรื้อรังพบบ่อยในเด็กที่ติดเชื้อตั้งแต่แรกเกิด
.
ไวรัสตับอักเสบซี
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี สามารถติดต่อกันทางเลือดหรือเพศสัมพันธ์คล้ายกับไวรัสตับอักเสบบี แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ทางสารคัดหลั่ง เช่น การจามหรือไอรดกัน, การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำด้วยกัน และ การให้นมบุตร
.
เมื่อไวรัสตับอักเสบซีเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะทำให้เกิดการอักเสบของตับ ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบซีนั้น
ตับจะมีอาการอักเสบและถูกทำลายไปเรื่อยๆ กลายเป็นตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับในที่สุด
.
ภาวะเบื้องต้นเมื่อเป็นไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี มีดังนี้
1. อ่อนเพลียคล้ายเป็นหวัด
2. คลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักลด
3. จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต
4. ปัสสาวะเข้ม ตาเหลือง
.
อย่างที่กล่าวมา“ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี”
นั้นอยู่ใกล้ตัวและอยู่ในชีวิตประจำวันเรา ดังนั้น ควรหมั่นเช็คสุขภาพและสังเกตร่างกายของตัวเอง
หากรู้สึกผิดปกติคล้ายที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์ หรือทานลิฟพลัส ใส่ใจตับ ที่มีสารสกัดเข้มข้นดีต่อตับกว่า 12 ชนิด สอบถาม โทร : 098-264-2464 หรือ LINE : @livplusthailand หรือคลิก >> http://bit.ly/LINE-LIV_031
ข้อมูลอ้างอิง :
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
: https://www.bumrungrad.com/th/conditions/hepatitis-c
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
: https://www.bumrungrad.com/th/conditions/hepatitis-b
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
:https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/531
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
: https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/hepatitis?utm_source=Social+%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A+%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%AD