“มะเร็งตับ” ถือเป็นภัยเงียบใกล้ตัว ที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ และส่วนใหญ่มักพบในเพศชาย มากกว่าเพศหญิง โดยมะเร็งตับมีการเจริญเติบโตของโรคที่รวดเร็วมาก จึงทำให้คนส่วนใหญ่ ที่ตรวจพบมะเร็งตับ มักเสียชีวิตภายในระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน หากตรวจพบในระยะสุดท้าย แต่หากรู้จักวิธีการดูแลตนเอง และหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยให้คุณห่างไกลจากโรค “มะเร็งตับ” ได้
มะเร็งตับเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง?
“มะเร็งตับ” สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ คนส่วนมากมักคิดว่า ต้องเกิดจากการดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่เท่านั้น แต่น้อยคนที่จะทราบว่า “มะเร็งตับ” เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การกินยา หรือโรคประจำตัวบางอย่าง ก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็น “มะเร็งตับ” เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถพัฒนาเป็น “มะเร็งตับ” ได้ง่าย เป็นต้น
ปัจจัยการเกิดมะเร็งตับ
1.การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ
2.การสูบบุหรี่
3.การรับประทานอาหาร เช่น อาหารปิ้งย่าง ของทอด ของมัน
4.การได้รับสารบางชนิด เช่น อะฟลาทอกซินจากเชื้อรา ที่ปนเปื้อนในอาหารแห้ง ธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วลิสง
5.การได้รับสารเคมีต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย เช่น ยาฆ่าแมลงจากผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด เกิดการสะสมสารเคมีจากยารักษาโรคบางชนิด สารเคมีที่เกิดจากอาหารหมักดอง เป็นต้น
6.ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ
7.การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี
8.ผู้ที่มีภาวะอ้วน ก็เสี่ยงเกิดมะเร็งตับได้ง่าย
9.รวมไปถึงภาวะทุพโภชนาการ ภาวะภูมิต้านทานร่างกายต่ำ และสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากอย่างการมีพันธุกรรมเสี่ยง
อย่างกล่าวมาจะเห็นได้ว่าปัจจัยการเกิด “มะเร็งตับ” นั้น อยู่รอบตัวเรา และไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหน อายุเท่าไหร่ หรือเพศอะไร ก็เสี่ยงเป็น “มะเร็งตับ” ได้ทั้งนั้น แต่หากคุณรู้จักดูแลตัวเอง และหมั่นสังเกตร่างกายว่าผิดปกติหรือไม่ ก็ช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคมะเร็งตับได้
การสังเกตอาการ
ส่วนมากเมื่อตับเกิดการผิดปกติ หากเป็นในระยะแรก จะมักไม่ค่อยแสดงอาการที่ชัดเจนนัก โดยอาการที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักดูธรรมดามาก จนคนมักชะล่าใจ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็เป็น “มะเร็งตับ” ระยะสุดท้ายเสียแล้ว
อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็น มะเร็งตับ สามารถสังเกตได้ดังนี้
✔ ปวดท้องบริเวณชายโครงขวา บางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลัง หรือไหล่
✔ ท้องบวมขึ้น
✔ เบื่ออาหาร
✔ จุกแน่น อืดท้อง
✔ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
✔ ตัวเหลือง ตาเหลือง
✔ ท้องผูก
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แล้วมีอาการอย่างที่กล่าวมา ควรรีบพบแพทย์ หรือโทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ(ฟรี) : 098-264-2464 หรือหากยังไม่มีอาการ ก็ควรหมั่นสังเกตร่างกาย ดูแลสุขภาพ เลือกกินของที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และควรดูแลสุขภาพตับ ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ลิฟพลัสบำรุงตับ” ที่ช่วยบำรุงฟื้นฟูตับให้แข็งแรง ช่วยบำรุงให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเมื่อตับที่เปรียบเสมือนโรงงานศูนย์กลางของร่างกายแข็งแรง ร่างกายของคุณก็จะแข็งแรงด้วยเช่นกัน
รีบดูแลสุขภาพตับของคุณก่อนสายเกินแก้ ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ลิฟพลัสบำรุงตับ”
สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร : 098-264-2464 หรือ LINE : @livplusthailand
หรือคลิก >> http://bit.ly/LINE-LIV_031
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
-RAMA CHANNEL (https://bit.ly/2V3uynp)
-โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์ (https://bit.ly/3nYaf7h)
-โรงพยาบาลเปาโล (https://bit.ly/3kHzM2K)