Table of Contents
โรคตับแข็งเป็นภาวะที่เกิดจากอาการตับอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้เซลล์ตับถูกทำลาย และเกิดพังผืดขึ้นในตับ ทำให้ตับทำงานได้ลดลง กระทบต่อระบบเผาผลาญ การดูดซึมสารอาหาร และการล้างพิษในร่างกาย
ดังนั้นสำหรับผู้ป่วยโรคตับแข็ง การเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยชะลอการลุกลามของโรค ลดภาวะแทรกซ้อน เสริมสุขภาพตับให้แข็งแรงขึ้น และป้องกันภาวะที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
เพื่อให้ผู้ป่วยโรคตับแข็งและผู้ดูแลสามารถเลือกอาหารได้อย่างเหมาะสม เราได้รวบรวมอาหารที่กินได้ และอาหารที่ห้ามกิน มาแนะนำกัน
โรคตับแข็งกินอะไรได้บ้าง ?
สำหรับอาหารที่ผู้ป่วยโรคตับแข็งสามารถรับประทานได้ มีดังต่อไปนี้
อาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูง
ผู้ป่วยโรคตับแข็งต้องการโปรตีน เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย แต่ต้องเลือกแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับตับมากเกินไป โดยมีอาหารแนะนำ เช่น
- ปลา โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึกที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
- เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น อกไก่ไม่มีหนัง
- ไข่ขาว เป็นแหล่งโปรตีนที่ย่อยง่ายและไม่มีไขมัน
- ถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง และถั่วเขียว
- โปรตีนจากนม เช่น นมไขมันต่ำ โยเกิร์ตไขมันต่ำ
อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนช่วยให้ผู้ป่วยโรคตับแข็งได้รับพลังงานอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่สร้างภาระให้ตับมากเกินไป โดยมีอาหารแนะนำ เช่น
- ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ รวมถึงขนมปังโฮลวีต
- พืชที่มีรากหรือลำต้นอยู่ใต้ดิน เช่น มันฝรั่ง มันเทศ ที่ไม่ผ่านการทอด
ผักและผลไม้
ผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูตับ ทั้งยังให้เส้นใยอาหารที่ช่วยในระบบขับถ่าย ลดการสะสมของเสียในร่างกาย โดยผักและผลไม้ที่แนะนำมีดังนี้
- ผักใบเขียว เช่น คะน้า ผักโขม บรอกโคลี ช่วยล้างพิษและลดการอักเสบ
- มะเขือเทศ มีไลโคปีนที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับ
- แคร์รอต แตงกวา บีตรูต ช่วยเสริมประสิทธิภาพในกระบวนการล้างพิษ
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- ผลไม้สดทั่วไปที่ไม่หวานจัด เช่น แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง มะละกอ
อาหารเสริมบำรุงตับ
นอกจากอาหารหลัก การใช้อาหารเสริมบางชนิด ยังจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับ โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ พร้อมคุณสมบัติบำรุงตับ และควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
โรคตับแข็งห้ามกินอะไร ?
การหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นภาระต่อการทำงานของตับ คืออีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยโรคตับไม่ควรมองข้าม ซึ่งมีสิ่งที่ห้ามกิน ดังนี้
อาหารที่มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูง
ไขมันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับทำงานหนักขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับ ซึ่งอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้
- อาหารทอดน้ำมันท่วม เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด กล้วยทอด
- เนื้อสัตว์ติดมัน เช่น หนังไก่ หนังหมู
- เนยเทียม มาร์การีน
- ขนมกรุบกรอบ
- อาหารแปรรูปที่มีไขมันทรานส์ เช่น คุกกี้ เค้ก โดนัท
อาหารที่มีโซเดียมสูง
โซเดียมทำให้เกิดการสะสมของน้ำในร่างกาย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในผู้ป่วยตับแข็ง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้
- อาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ปลาร้า กะปิ
- อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แหนม กุนเชียง
- อาหารกระป๋อง
- น้ำจิ้มต่าง ๆ เช่น ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว น้ำปลา
- ซุปก้อนสำเร็จรูป ผงปรุงรส
อาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต
น้ำตาลและแป้งขัดขาวทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตับต้องทำงานหนักในการควบคุมระดับน้ำตาล ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารต่อไปนี้
- ขนมหวาน เค้ก คุกกี้ ช็อกโกแลต
- น้ำอัดลม น้ำหวาน
- แป้งขัดขาว ข้าวขัดขาว
- ขนมปังขาว
- น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลเพิ่ม
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง
เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง หรือน้ำอัดลมบางชนิด จะเพิ่มภาระให้ตับในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย จึงควรงดหรือลดปริมาณการดื่มลง
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด เป็นสารพิษโดยตรงต่อตับ และเป็นสาเหตุหลักของโรคตับแข็ง ผู้ป่วยโรคตับแข็งต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
เคล็ดลับในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพตับที่ดี
นอกจากการเลือกกินอาหารแล้ว ผู้ป่วยยังควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ เพื่อให้มีคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีมากที่สุด
- รับประทานอาหารให้เป็นมื้อเล็ก ๆ โดยควรแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ 5-6 มื้อต่อวัน เพื่อลดภาระการทำงานของตับในแต่ละครั้ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยในกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยควบคุมน้ำหนัก
- ตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ เพื่อติดตามอาการกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงปรับแผนการรับประทานอาหารตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนาการ
ด้วยเคล็ดลับการดูแลตนเองเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคตับแข็งสามารถดูแลตนเอง พร้อมกับช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ป่วย
นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยสำคัญอย่างอาหารเสริมที่ช่วยฟื้นฟูและสนับสนุนการทำงานของตับ ขอแนะนำ Livplus อาหารเสริมบำรุงตับด้วยสารสกัดธรรมชาติ 100% ที่พัฒนาขึ้นจากการวิจัยจริง เพื่อช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับในระบบการทำงานของตับ เริ่มดูแลสุขภาพตับของคุณตั้งแต่วันนี้ ! สั่งซื้อ Livplus ได้แล้ววันนี้ที่ Facebook: Livplusthailand หรือ Line OA: @Livplusthailand
ข้อมูลอ้างอิง
- กินอย่างไรเมื่อเป็นโรคตับแข็ง. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จาก https://www.thaihealth.or.th/กินอย่างไรเมื่อเป็นโรค-2/
- Cirrhosis Diet: What to Eat and What Not to Eat. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จาก https://www.verywellhealth.com/what-is-the-best-diet-for-cirrhosis-1760062
- How to Follow a Liver Cirrhosis Diet: All You Need to Know. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จาก https://www.healthline.com/nutrition/liver-cirrhosis-diet