นโยบาย เรื่อง การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท ลิฟพลัส เฮลท์ โซลูชั่น จำกัด
บริษัท ลิฟพลัส เฮลท์ โซลูชั่น จำกัด (“บริษัทฯ) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองส่วนบุคคล ถึงวิธีการที่บริษัทฯปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ และเพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจึงประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
1. ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งนี้ ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา ความคิดเห็นทางการเมือง พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น การสแกนลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้า เป็นต้น หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
2. การเคารพสิทธิในความเป็นส่วนบุคคล
บริษัทฯ เคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และตระหนักดีว่าเจ้าของข้อมูล ย่อมมีความประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในการใช้บริการ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯได้รับมา เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีคุณภาพ จะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทฯเท่านั้น โดยบริษัทฯ มีมาตรการเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็นด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือด้วยวิธีการอื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทฯเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้อำนาจในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัย และเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ เป็นต้น
บริษัทฯอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการของบริษัทฯดียิ่งขึ้น
4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อประโยชน์ในการให้บริการและดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัทฯ และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน บริษัทฯ จึงจัดเก็บบันทึกข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์ (Log Files) โดยระบบอัตโนมัติ ได้แก่ หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser) คุกกี้ (Cookies) บริษัทฯ อาจจำเป็นใช้บริการของหน่วยงานภายนอกที่มีการจัดเก็บบันทึกการเข้าออกระบบให้บริการทางเว็บไซต์ตามที่กฎหมายกำหนดด้วย
5. การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้
บริษัทฯ จะใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมและจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ เท่านั้น โดยจะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทฯ มิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่ เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลและผู้ใช้บริการอื่น เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ เป็นต้น ในบางกรณีบริษัทฯ อาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของบริษัทฯ
6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถส่งคำร้องขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนดเพื่อตรวจสอบความมีอยู่ และลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อขอทราบวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ เพื่อขอสำเนา เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องสมบูรณ์ เพื่อขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วน
บุคคลในกรณีที่เป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ เมื่อบริษัทฯได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
อนึ่งอย่างไรก็ตาม บริษัทฯอาจปฏิเสธการร้องขอจากเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวตนได้อีก ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีข้อจำกัดเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะอย่าง อาจส่งผลให้ไม่สามารถได้รับบริการจากบริษัทฯได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งบริษัทฯอาจจะไม่สามารถทำงานร่วมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือให้บริการใดๆได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ยินยอมให้ข้อมูลที่บริษัทฯต้องการ
ทั้งนี้ บริษัทฯมีสิทธิที่จะไม่ดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากคำขอของเจ้าของข้อมูลถูกจำกัดด้วยข้อผูกพันและเงื่อนไขตามสัญญา และหรือข้อจำกัดทางกฎหมาย
8. การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นที่เป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ซึ่งทำงานร่วมกับบริษัทฯในการจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการในรูปแบบต่างๆ หรือตามความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัทฯ หรือกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ หรือเป็นการการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้กับหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานภาครัฐตามข้อบังคับของกฎหมายหรือตามคำสั่งศาลหรือตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ โดยข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับ ทั้งในรูปเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งในระหว่างการส่งผ่านข้อมูลทุกขั้นตอน
9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายและแนวปฏิบัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนเงื่อนไขนโยบายบริษัทฯฉบับนี้เป็นครั้งคราวอยู่เสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบด้วยการนำข้อมูลการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใดๆหรือข้อความที่ได้แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงในนโยบายนี้เผยแพร่ผ่านการประกาศที่เหมาะสมของบริษัทฯ
การติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ ผู้รับผิดชอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Email : puckawadee.m@livplusthailand.com บริษัท ลิฟพลัส เฮลท์ โซลูชั่น จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ : 063-223-7220
ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568